แบบสอบถาม

ผลสำรวจจากแบบสอบถามปัญหาการจอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)
จากจำนวนผู้ทำแบบสอบถามทั้งหมด 100 คน ได้ข้อมูลดังนี้
ตอนที่ 1 :ข้อมูลทั่วไป
1.)        กลุ่มคณะ
วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี           คิดเป็น 32%
วิทยาศาสตร์สุขภาพ    คิดเป็น 52%   
สังคมศาสตร์               คิดเป็น 16%
2.)        ชั้นปี
ปี 1      คิดเป็น 52%
ปี 2      คิดเป็น 16%
ปี 3      คิดเป็น 30%
ปี 4      คิดเป็น 2%
3.)        ชนิดของรถที่นำมาจอดบริเวณอาคารเรียนรวม (QS)
จักรยานยนต์                คิดเป็น66%
รถยนต์ส่วนบุคคล      คิดเป็น 20%
จักรยาน                       คิดเป็น 10%
อื่นๆ(ขนส่งสาธารณะ)            คิดเป็น 4%
4.)        ช่วงเวลาที่ใช้จอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม (QS) (ตอบได้มากกว่า1ข้อ)
08.00 – 10.00 .         คิดเป็น 21.77%                                   
10.00 – 12.00 .         คิดเป็น 24.27%
12.00 – 14.00 .         คิดเป็น 3.22%                         
14.00 – 16.00 .         คิดเป็น 25.8%
16.00 – 18.00 .         คิดเป็น 16.13%                       
18.00 . เป็นต้นไป     คิดเป็น 0.81%

ตอนที่ 2 :ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม
ปัญหาในการจอดรถ
1.)        ท่านคิดว่าบริเวณที่จอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)มีปัญหาในการจอดรถ ?
มี          คิดเป็น 88%
ไม่มี     คิดเป็น 12%
2.)        ท่านคิดว่าเกิดจากสาเหตุใด (เลือกได้มากกว่า1ข้อ)
บริเวณที่จอดรถมีน้อยเกินไปจนทำให้จอดรถไม่เพียงพอ                               คิดเป็น 30.77%
ปริมาณรถที่เข้ามาจอดมีจำนวนมากเกินไปจนทำให้บริเวณที่จอดรถไม่เพียงพอ       คิดเป็น 24.03%
การจอดรถที่ไม่เป็นระเบียบทำให้ไม่สามารถจอดรถได้เพียงพอ คิดเป็น 28.85%
ผ่าผืนป้ายจราจรทำให้เกิดการขับขี่รถย้อนศรซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ คิดเป็น 12.50%
อื่นๆ                                                                                                      คิดเป็น 3.85%
3.)        ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการจอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)
-      สร้างที่จอดรถและตีเส้นระบุการจอดที่ชัดเจน
-      สร้างที่จอดรถจักรยานยนต์น้อยและสร้างที่จอดรถยนต์เพิ่ม
-      อยากให้ลงโทษผู้ประพฤติผิดแทนที่จะเป็นจักรยานยนต์
-      ไม่มีร่ม
ความปลอดภัย
1.)        ท่านคิดว่าการจราจรบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)มีความปลอดภัยหรือไม่?
ปลอดภัย          คิดเป็น34%
ไม่ปลอดภัย     คิดเป็น66%
2.)        ท่านคิดว่าเกิดจากสาเหตุใด (เลือกได้มากกว่า1ข้อ)
การจราจรบริเวณดังกล่าวมีปริมาณรถมากเกินไป                              คิดเป็น51.22%
สภาพผิวการจราจรไม่ปลอดภัย                                                          คิดเป็น9.70%
ป้ายบอกเส้นทางการจราจรไม่ชัดเจน                                                             คิดเป็น22.00%
ไม่ได้ศึกษาการจราจรที่ถูกต้องในบริเวณนั้นจึงทำผิดกฎจราจร(ขับขี่รถย้อนศร)       คิดเป็น12.20%
อื่นๆ                                                                                                     คิดเป็น4.88%
3.)        ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความปลอดภัยในการจราจรบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)
-      ควรมีป้ายบอกเส้นทางการจราจรที่ชัดเจน
-      เพิ่มความเข้มงวดในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามปัญหาการจอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม(QS) มาวิเคราะห์โดยแยกออกเป็น2ประเภทคือ 1.ปัญหาในการจอดรถ2.ความปลอดภัย
จากการวิเคราะห์ข้อมูลประเภทปัญหาในการจอดรถพบว่า ผู้ทำแบบสอบถามดังกล่าวมีความคิดเห็นว่าที่จอดรถบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)มีปัญหาในการจอดรถคิดเป็น 88% และไม่มีปัญหาคิดเป็น 12% ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามากที่สุดจากชุดข้อมูลแบบสอบถามคือบริเวณที่จอดรถมีน้อยเกินไปจนทำให้จอดรถไม่เพียงพอคิดเป็น 30.77% รองลงมาคือการจอดรถที่ไม่เป็นระเบียบทำให้ไม่สามารถจอดรถได้เพียงพอคิดเป็น 28.85%
จากการวิเคราะห์ข้อมูลประเภทความปลอดภัยพบว่าผู้ทำแบบสอบถามคิดว่าการจราจรบริเวณอาคารเรียนรวม(QS)มีความปลอดภัยคิดเป็น 34% และไม่ปลอดภัย คิดเป็น 66%ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยมากที่สุดจากชุดข้อมูลแบบสอบถามคือการจราจรบริเวณดังกล่าวมีปริมาณรถมากเกินไปคิดเป็น 51.22%รองลงมาคือป้ายบอกเส้นทางการจราจรไม่ชัดเจน คิดเป็น 22.00%
            ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวทางกลุ่มผู้จัดทำโครงงานจึงได้คิดแนวทางการแก้ไช้ปัญหาขึ้นเพื่อสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอีกทั้งยังเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ในรายวิชาวิศวกรรมขนส่งเพื่อสร้างแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและยังทำให้เกิดความเข้าใจในบทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจากการปฏิบัติจริงอีกด้วยดังนั้นกลุ่มของพวกเราจึงนำเสนอโครงงาน “blab la bla” เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวมาในข้างต้น








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น